|
โชว์ พระอื่นๆ
เหรียญกุมาร (ไอ้ไข่) เด็กวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช (905)
.
เหรียญกุมาร (ไอ้ไข่) เด็กวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช (905)
เหรียญ กุมาร (ไอ้ไข่) เด็กวัดเจดีย์ ปี 2526 ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช (633) จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเหรียญของสายบูชากุมารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะกุมารไข่มักจะบรรดาลพรให้ผู้ที่บูชาขอสมความปรารถนานั่นเอง จึงทำให้เหรียญกุมารไข่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีว่า ไอ้ไข่ เด็กวัดเจย์ดี
ประวัติเรื่องราวของ ไอ้ไข่ เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่ตั้งวัดเจดีย์แห่งนี้เมื่อก่อนหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เมื่อครั้งเดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาแวะมาปักกลด เดินธุดงค์อยู่บริเวณนี้เพื่อพักแรม ส่วนไอ้ไข่อายุก็ราวๆ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่มาด้วย
ปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้พบว่ามีทรัพย์สมบัติมากอยู่ พร้อมกันนั้นศาสนสถานก็เป็นสถานที่ซึ่งสำคัญมากจึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและที่แห่งนี้เอาไว้
หลังปี 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักค้างอ้างแรมในวัดเจดีย์ ถ้าไม่เอ่ยชื่อไอ้ไข่ บอกกล่าว ขอขมาแล้วล่ะก็ มักจะนอนไม่ได้ เรียกว่าถูกกวนทั้งคืน เคลิ้มๆจะหลับก็จะรู้สึกเหมือนมีเด็กมาตีหัวบ้าง ดึงขา...ดึงแขนบ้าง จนชาวบ้านในระแวกเล่าลือและต่างพากันกลัวเป็นอย่างมาก
และด้วยการที่ชาวบ้านได้มาขอพรกับไอ้ไข่ มักได้ผลตอบรับตามคำขอบ่อยครั้งชาวบ้านจึงเกิดการศรัทธา ช่วงนั้นในราวๆปี 2526 พ่อท่านเทิ่ม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ยุคนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่รุ่นแรก พร้อมพัฒนาวัดเรื่อยมา จึงเป็นที่มาของเหรียญไอ้ไข่ รวมตั้งรูปปั้นกุมารไข่ที่เราพบเห็นกันอยู่ทั่วไป
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2020-03-14 19:41:57
ตะกรุด หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต พุทธคุณในด้านมหาอุด ยิงไม่เข้า (686)
(คลิปแสดง การทดสอบเครื่องรางของ หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต โดยทหาร ซึ่งเครื่องรางต่างๆหลวงพ่อท่านอนุญาตให้ทดสอบได้)
จากคลิป VDO จะเห็นได้ว่า ถึงแม้กระสุนจะยิงออก และทดสอบซ้ำๆหลายนัด แต่ไม่สามารถทำให้แก้วที่หุ้มตะกรุดแตกได้ ซึ่งปกติแล้วถ้ากระจกแก้วธรรมดาถึงแม้จะยิงเฉียดๆกระจกก็ต้องแตกอย่างแน่นอน
หากท่านใดกำลังคิดว่าเครื่องรางเค้าไม่ให้เอามาลองยิงแบบนี้
แต่ส่วนตัวผมกลับคิดว่า ถ้าเราต้องไปเป็นทหาร ทุกวินาทีคือความตาย และเครื่องรางที่นำไปบูชาติดตัว หากได้ทดสอบจนแน่ใจแล้ว จะทำให้มีความเชื่อมั่นและมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เครื่องรางนี้จึงเหมาะกับทหารและตำรวจที่มีความเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่
หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ท่านได้กล่าวไว้ว่า เครื่องรางต่างๆของท่านสามารถลองได้
และนี่คือคำอนุญาตจากพระครูผู้ปลุกเสกเครื่องรางและพระเครื่องต่างๆเหล่านั้น
ตะกรุด หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต พุทธคุณในด้านมหาอุด ยิงไม่เข้า (686)
ซึ่งนอกจากจะยิงไม่เข้าแล้ว ตะกรุดของหลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ยังทำให้ปืนไม่สามารถยิงลูกกระสุนออกได้อีกด้วย
จากคำบอกเล่าของตำรวจท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปเข้ารับราชการที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่หลวงพ่อท่านได้นำตะกรุดไปแจกให้กับเหล่าหหารเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้า โดยทหารเป็นผู้ที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อรักษาแผ่นดินของชาติ
หลวงพ่อท่านได้ปลุกเสกตระกรุดไปแจกทหารทั้งเหล่ากองทัพทางภาคใต้ ท่านอนุญาตให้สามารถทดลองตะกรุดของท่าน เพื่อทดสอบว่าสามารถใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เพื่อเสริมกำลังใจและความเชื่อมั่นสำหรับทหารที่จะนำตะกรุดบูชาติดตัวไปลงไปยังแนวชายแดนที่เสี่ยงต่อการถูกลอบโจมตี
การทดสอบท่านได้ให้นำตะกรุดไปคล้องไว้ที่เสื้อเกราะกันกระสุน แล้วให้พลทหารทดสอบยิง โดยให้ใช้ปืนชนิดต่างๆได้ตามใจชอบ ปรากฎว่ายิงไม่ออก รวมถึงปืน M16 ก็ยิงกระสุนไม่ออก แม้แต่ระเบิดที่ทดสอบขว้างไปที่เป้าหมาย ระเบิดก็ยังด้านไม่ยอมระเบิด
เหล่านี้คือประสบการณ์ของตำรวจท่านหนึ่งที่ได้เล่าสู่กันฟัง จากการที่เขาได้พบเห็นเรื่องราวข้างต้นนี้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องราวอีกมากมายจากทางทหารที่ได้พบเจอประสบการณ์จากตะกรุดในขณะที่ออกปฏิบัติการ อย่างเช่น โดนซุ่มยิงจากทางด้านหลังจนล้มลงไป แต่กลับลุกขึ้นมาได้โดยไม่มีบาดแผลหรืออาการบัดเจ็บใดๆ , ทหารบางท่านก็โดนระเบิดในขณะที่ขับรถลาดตระเวณ แน่นอนว่ารถพังยับเยินเสียหายจากแรงระเบิด แต่ทหารบนรถกลับปลอดภัยดี
เหล่านี้ก็เป็นเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจริง และสามารถทดสอบได้จริงตามที่หลวงพ่อท่านอนุญาตไว้
ข้อห้ามบางประการของการบูชาตะกรุดของ หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ซึ่งบอกเล่ามาจากน้องชายแท้ๆของหลวงพ่อ โดยเล่าว่า เฉพาะตะกรุดของหลวงพ่อมนัส ห้ามนำไปแขวนไว้ที่หน้ารถเด็ดขาด ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อเกจิอื่นๆไม่ทราบว่ามีข้อบังคับแบบนี้หรือไม่
ตะกรุดนี้เป็นของแท้แน่นอน เพราะผมเดินทางไปที่ สำนักฝึกกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลม หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต แล้วได้เช่าบูชามาเก็บไว้ติดตัวบ้าง และบางส่วนก็แบ่งบูชาหรือแจกให้กับญาติๆและเพื่อนๆบ้างตามโอกาสที่เหมาะ
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-12-16 07:34:47
ตะกรุด หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต พุทธคุณในด้านมหาอุด ยิงไม่เข้า (684)
(คลิปแสดง การทดสอบเครื่องรางของ หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต โดยทหาร ซึ่งเครื่องรางต่างๆหลวงพ่อท่านอนุญาตให้ทดสอบได้)
จากคลิป VDO จะเห็นได้ว่า ถึงแม้กระสุนจะยิงออก และทดสอบซ้ำๆหลายนัด แต่ไม่สามารถทำให้แก้วที่หุ้มตะกรุดแตกได้ ซึ่งปกติแล้วถ้ากระจกแก้วธรรมดาถึงแม้จะยิงเฉียดๆกระจกก็ต้องแตกอย่างแน่นอน
หากท่านใดกำลังคิดว่าเครื่องรางเค้าไม่ให้เอามาลองยิงแบบนี้
แต่ส่วนตัวผมกลับคิดว่า ถ้าเราต้องไปเป็นทหาร ทุกวินาทีคือความตาย และเครื่องรางที่นำไปบูชาติดตัว หากได้ทดสอบจนแน่ใจแล้ว จะทำให้มีความเชื่อมั่นและมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เครื่องรางนี้จึงเหมาะกับทหารและตำรวจที่มีความเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่
หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ท่านได้กล่าวไว้ว่า เครื่องรางต่างๆของท่านสามารถลองได้
และนี่คือคำอนุญาตจากพระครูผู้ปลุกเสกเครื่องรางและพระเครื่องต่างๆเหล่านั้น
ตะกรุด หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต พุทธคุณในด้านมหาอุด ยิงไม่เข้า (684)
ซึ่งนอกจากจะยิงไม่เข้าแล้ว ตะกรุดของหลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ยังทำให้ปืนไม่สามารถยิงลูกกระสุนออกได้อีกด้วย
จากคำบอกเล่าของตำรวจท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปเข้ารับราชการที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่หลวงพ่อท่านได้นำตะกรุดไปแจกให้กับเหล่าหหารเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้า โดยทหารเป็นผู้ที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อรักษาแผ่นดินของชาติ
หลวงพ่อท่านได้ปลุกเสกตระกรุดไปแจกทหารทั้งเหล่ากองทัพทางภาคใต้ ท่านอนุญาตให้สามารถทดลองตะกรุดของท่าน เพื่อทดสอบว่าสามารถใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เพื่อเสริมกำลังใจและความเชื่อมั่นสำหรับทหารที่จะนำตะกรุดบูชาติดตัวไปลงไปยังแนวชายแดนที่เสี่ยงต่อการถูกลอบโจมตี
การทดสอบท่านได้ให้นำตะกรุดไปคล้องไว้ที่เสื้อเกราะกันกระสุน แล้วให้พลทหารทดสอบยิง โดยให้ใช้ปืนชนิดต่างๆได้ตามใจชอบ ปรากฎว่ายิงไม่ออก รวมถึงปืน M16 ก็ยิงกระสุนไม่ออก แม้แต่ระเบิดที่ทดสอบขว้างไปที่เป้าหมาย ระเบิดก็ยังด้านไม่ยอมระเบิด
เหล่านี้คือประสบการณ์ของตำรวจท่านหนึ่งที่ได้เล่าสู่กันฟัง จากการที่เขาได้พบเห็นเรื่องราวข้างต้นนี้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องราวอีกมากมายจากทางทหารที่ได้พบเจอประสบการณ์จากตะกรุดในขณะที่ออกปฏิบัติการ อย่างเช่น โดนซุ่มยิงจากทางด้านหลังจนล้มลงไป แต่กลับลุกขึ้นมาได้โดยไม่มีบาดแผลหรืออาการบัดเจ็บใดๆ , ทหารบางท่านก็โดนระเบิดในขณะที่ขับรถลาดตระเวณ แน่นอนว่ารถพังยับเยินเสียหายจากแรงระเบิด แต่ทหารบนรถกลับปลอดภัยดี
เหล่านี้ก็เป็นเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจริง และสามารถทดสอบได้จริงตามที่หลวงพ่อท่านอนุญาตไว้
ข้อห้ามบางประการของการบูชาตะกรุดของ หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต ซึ่งบอกเล่ามาจากน้องชายแท้ๆของหลวงพ่อ โดยเล่าว่า เฉพาะตะกรุดของหลวงพ่อมนัส ห้ามนำไปแขวนไว้ที่หน้ารถเด็ดขาด ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อเกจิอื่นๆไม่ทราบว่ามีข้อบังคับแบบนี้หรือไม่
ตะกรุดนี้เป็นของแท้แน่นอน เพราะผมเดินทางไปที่ สำนักฝึกกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลม หลวงพ่อมนัส มันตฺชาโต แล้วได้เช่าบูชามาเก็บไว้ติดตัวบ้าง และบางส่วนก็แบ่งบูชาหรือแจกให้กับญาติๆและเพื่อนๆบ้างตามโอกาสที่เหมาะ
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-12-16 07:34:06
เบี้ยแก้ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว (217)
เบี้ยแก้ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว (217) เป็นเบี้ยแก้ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ถามถึงกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเบี้ยแก้ของหลวงปู่เพิ่มนั้นมีความศักสิทธิ์สามารถช่วยป้องกันคุณไสยและสิ่งร้ายๆต่างๆได้ จัดว่าเป็นสุดยอดเครื่องรางที่ใครๆก็อยากเก็บไว้บูชาติดตัว
เบี้ยยังสามารถป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ สัตว์มีพิษ ไข้ป่า ผีป่าต่างๆ ซึ่งคนในสมัยก่อนนิยมนำเบี้ยแก้นี้ติดตัวไปมากเพราะต้องเดินป่าบ่อยครั้ง หรือแม่กระทั่งติดตัวเพื่อเข้าสู่สนามรบในสงคราม เป็นต้น
ว่ากันว่า แกนในสุดของเบี้ยแก้นั้นทำมาจากเปลือกหอยเบี้ย ซึ่งเป็นเครื่องรางที่คนโบราณได้เชื่อถือและสืบทอดกันต่อๆมาว่าหอยเบี้ยสามารถป้องกันสิ่งร้ายต่างได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่หากนำมาเข้าพิธีและทำการปลุกเสกด้วยกำลังสมาธิที่แก่กล้าและบริสุทธิ์ก็ยิ่งทำให้อำนาจและอิทธิฤทธิ์นั้นมีมากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งโดยมากแล้วก็จะนำมาให้พระทรงอภิญญาท่านปลุกเสก
สำหรับเบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่มนั้นในสมัยก่อนหากท่านใดที่ต้องการเครื่องรางเบี้ยแก้นี้ ก็สามารถหาวัตถุต่างๆไปให้หลวงปู่ท่านปลูกเสกได้ โดยเตรียมของที่ต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้ หอยเบี้ย 1 ตัว ปรอทน้ำหนัก 1 บาท ชันนะโรงใต้ดินกลางแจ้ง 1 ก้อน แผ่นตะกั่วขนาด 4 x 5 นิ้ว 1 แผ่น
และนำเอาของทั้งหมดใส่ถาดพร้อมดอกไม้ธูปเทียนไปถวายหลวงปู่ท่านจะรับสิ่งของเอา ไว้ จากนั้นท่านจะเสกปรอทแล้วเทปรอทจากขวดใส่ฝ่ามือเรียกเอาปรอทใส่เบี้ย แล้วอุดด้วยชันนะโรงที่ปากหอย จากนั้นท่านก็จะบอกให้นำห้อยที่ปลุกเสกแล้วไปให้ท่านสมุห์เจือทำการหุ้มตะกั่วและสถักเชือกหุ้มห่อหอยเบี้ยแก้อีกที ก็จะทำให้เบี้ยแก้สมบูรณ์และมีความปราณีตสวยงาม
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-09-30 11:18:04
แชร์ประสบการณ์ แหวนพิรอด หลวงพ่อม่วง เจอกะตัวเองเลย
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอเล่าประสบการณ์ของแหวนพิรอดหลวงพ่อม่วงที่ผมได้ประสบพบเจอกับตัวเองครับ
เรื่องมีอยู่ว่าปกติผมจะเช่าพระและปล่อยพระหลวงปู่ทิมเป็นหลัก
และแล้ววันนึงก็มีผู้ที่ต้องการแหวนพิรอด หลวงปู่ม่วง
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้จักหรอกว่าเป็นแบบไหน
ผมหาข้อมูลจากใน google แล้วค้นดูรูปภาพ
ผมเห็นแหวนแล้ว ก็อ๋อ..นี่แหวนเครื่องราง คงทำมาจากพวกเปลือกไม้ หรือหวายที่นำมาสานเป็นแหวนแล้วชุบลักอีกทีหนึ่ง
และแล้วผมก็ไปหาแหวนพิรอด หลวงพ่อม่วง มาได้จนสำเร็จ (ได้แหวนมา 2 วงครับ)
จากนั้น ขั้นตอนต่อไปก็คือการถ่ายรูปแหวนเพื่อที่จะส่งรูปให้ผู้ที่ต้องการเช่าพิจารณา
ในขณะที่ผมถ่ายรูปแหวนอยู่นั้น ทำไม่อยู่ๆขนก็ลุกซู่ ร่างกายก็รู้สึกหนาวๆจากข้างในทั้งๆที่อากาศก็ร้อน
แต่ก็ไม่ได้คิดไรมาก ก็ถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆจนเสร็จ
--------------
เบรคเรื่องแหวนไว้สักครู่ !!!
----------------
ขอเราสิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกวันก่อน เพื่อจะได้เล่าเรื่องต่อได้
ในทุกๆวันช่วงหัวค่ำผมจะนั่งสมาธิวันละประมาณ 1 ชั่วโมง
ฝึกนั่งสมาธิเป็นประจำประมาณปีกว่าๆ
โดยผมฝึกเพื่อเน้นให้มีสติรู้ลมหายใจเข้า-ออก (รู้ปัจจุบันขณะ)
แต่ด้วยผลของการฝึก และการนั่งสมาธิที่นานถึง 1 ชั่วโมง
ก็มักจะเกิดนิมิตแสงสว่างให้เห็นเสมอๆ
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของนักปฏิบัตินั่งสมาธิ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นแสงสว่างกันในตอนที่จิตสงบ
เคยทดลองนั่งสมาธิปิดไฟอยู่หลายครั้ง ในห้องมืดสนิท ขณะจิตสงบนิ่งก็มักจะเกิดแสงก็สว่างจ้าทั้งห้องในขณะที่เราหลับตาอยู่
(เคยทดลองตอนที่แสงสว่างจ้าที่สุด .. แล้วลืมตาทันที ก็ปรากฎว่าห้องมืดสนิท)
ก็เป็นเรื่องอะไรที่แปลกดีเหมือนกัน
เมื่อก่อนนี้ก็ไม่เชื่อ เรื่องแสงสว่างในสมาููธิ แต่ตอนนี้เจอกับตัวเอง เลยไม่มีข้อสงสัยอีก
และเมื่อเห็นจนชินตา จนมันเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ไม่ยึดติดในแสงสว่างอีก
พอแสงสว่าปรากฎ ผมก็จะวางมันลง โดยไม่น้อมจิตเข้าไปดูไปรู้
แล้วแสงมันก็ดับไป
เน้นการฝึกสติรู้ลมหายใจในปัจจุบันขณะเป็นหลักครับผม
---------------
เข้าสู่เรื่องแหวนกันต่อ !!!
----------------
เนื่องจากวันนั้นผมถ่ายรูปจนดึก เลยไม่ได้นั่งสมาููธิ (ถ่ายรูปพระเครื่องอื่นๆอีกหลายองค์ด้วย)
และในวันถัดมา ผมก็ได้นั่งสมาธิเหมือนกับทุกๆวัน
ก็นั่งสมาธิไปจนจิตสงบนิ่ง
ช่วงนั้นน่าจะนั่งไปได้ประมาณเกือบๆ 45 นาทีได้
อยู่ๆ ก็เกิดนิมิตแปลกๆขึ้นมา
ในนิมิตผมเห็นเป็นภาพคน นั่งขัดสมาธิ
เป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 ++
ไว้ผมสั้น ใส่ชุดขาวทั้งเสื้อและกางเกง โดยเสื้อเป็นเสื้อแขนสั้น
เสื้อผ้าเหมือนพวกที่เค้าใส่ไปวัดปฏิบัติธรรมตามวัดกันน่ะครับ
ผู้ชายคนนี้ไว้หนวดด้วย แต่ไม่มีเครา
แต่ที่นั่งประหลาดใจนั่นก็คือ สีผิวของเค้า
คือผิวหลักก็เหมือนคนทั่วๆไป
แต่ในผิวมีความซีด และมีสีเขียวปนๆอยู่ในผิวด้วย
แน่นอนครับ ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่คนเป็นๆ
ผมพยายามวางนิมิตลง เพราะเริ่มรู้สึกกลัวๆ
แต่ยิ่งวางจิตเพื่อให้คลายนิมิต แล้วมารู้ลมหายใจปัจจุบัน
นิมิตมันก็พยาปรากฎให้เห็นอีก (ยิ่งซูมหน้าของชายคนนั้นชัดเจนเข้าไปอีก)
ก็เลยว่าพอและ ออกจากสมาธิก่อน
พอออกจากสมาูธิ ก็ทำการแผ่เมตตาให้ชายผู้นั้นด้วย ถึงผมจะไม่รู้ว่าใคร แต่เราก็แผ่ให้เค้าเพื่อที่เราจะได้สบายใจด้วย
---------------
ตามหาความจริง กับการสร้างแหวน !!!
----------------
พอออกจากสมาูธิมาแล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า นิมิตนั้นมาได้ยังไง
ปกตินั่งสมาธิ ไม่เคยปรากฎนิมิตที่เป็นคนเลย
จะนิมิตเห็นเป็นแสงสว่างโดยมาก
และส่วนน้อยที่จะนิมิตเห็นสถานที่บ้าง , หรือสิ่งของบ้าง แต่ก็นานๆทีถึงจะเห็น
แต่วันนี้อะไรกัน นิมิตคน และเป็นคนอื่น ไม่ใช่ญาติ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ผมก็เลยเริ่มสงสัยว่าแหวนพิรอดสร้างมาจากอะไรกันแน่
เลยเข้าเน็ตค้นหาข้อมูล
ถึงกับต้องตกใจ เมื่ออ่านข้อมูลในการสร้างแหวน
แหวนนั้นถูกสร้างจากผ้าห่อศพ และสายสินมัดตราสังข์ที่ใช้ในพิธีศพ
ในตอนนั้นรู้สึกเริ่มหลอนนิดๆ เพราะตอนเช่าแหวนมาคิดว่าแหวนทำจากเปลือกไม้ที่นำมาสานกัน
ส่วนเรื่องนิมิตในสมาธิ จะว่ามโน ก็คงไม่น่าใช่
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างมีเหตุมีปัจจัย
ผมก็เดาว่าเป็นวิญญาณที่เค้าอยู่อีกภพภูมินึง แล้วเค้ามีความเกี่ยวข้องกับแหวนนี้อยู่ครับผม
โดยบังเอิญว่าจิตช่วงที่สงบ สื่อถึงกันพอดีแล้วเค้าเลยปรากฎให้เห็นก็เป็นได้
ก็เล่าสู่กันฟังนะครับ ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ครับ
และนี่ก็คือประสบการณ์ตรงที่ผมเจอแล้วนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-09-30 11:17:49
พระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น แบ่งปันให้เช่าบูชา (384)
พระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น แบ่งปันให้เช่าบูชา
พระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น แบ่งปันให้เช่าบูชา ถ้าคุณกำลังหาเช่าบูชาพระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น อยู่ในขณะนี้ เรามีพระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น ที่สวยให้คุณชมก่อนตัดสินใจเช่าบูชา
ซึ่งเป็นพิมพ์พระเครื่องยอดนิยมอีกองค์หนึ่งของหลวงพ่อปานที่เหล่าผู้ที่ศรัทธาและเหล่าลูกศิษย์ลูกหาต้องการที่จะเช่าบูชาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเอง
องค์หลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น มีพุทธคุณที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ ทำการค้าขาย ร่ำรวย แคล้วคลาด คุ้มครอง ซึ่งหลวงพ่อปานท่านได้เป็นผู้ปลูกเสกด้วยตัวของท่านเอง
จึงทำให้องค์พระมีความศักสิทธิ์และความขลังของเมตามหานิยม ท่านใดที่ต้องการเช่าบูชาพระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น สามารถติดต่อสอบถามเราได้
พระหลวงพ่อปานขี่ไก่หาง 5 เส้น ของเราองค์นี้ ลักษณะโดยทั่วไป องค์พระนั่งในปางสมาธิขัดขาไขว้คอดกลางประทับเหนืออาสนะฐานบัวเม็ด 8 จุด มีไก่เป็นพาหนะอยู่ด้านล่าง
ด้านข้างมีอักขระขอม 4 ตัวเป็นตัวนูนด้านซ้าย คือ อุ-อะ และด้านขวาคือ อุ-มะ ในปัจจุบันนั้น เนื้อพระมีเม็ดทรายผสมในเนื้อ ทำให้เราสามารถมองเห็นและสั่งเกตได้ ผิวด้านหน้ามีเปลือกผิวที่เป็นส้มอ่อนดินนุ่ม ละเอียด จึงไม่ค่อยเห็นเม็ดทราย จะเห็นได้ชัดที่ด้านหลังในองค์ที่มีรอยปาด
แต่เนื้อไม่ถึงกับหยาบมาก สีเนื้อพิมพ์ไก่หาง 5 เส้น ส่วนใหญ่มีสีอิฐ สีเหลืองนวลอมขาว สีน้ำตาล ด้านหลังองค์พระนอกจากรอยปาดแล้ว บางองค์ยังปรากฏรอยนิ้วมือของผู้กดพิมพ์อีกด้วย
ส่วนด้านข้างรอยตัดขอบจะเรียบ (พระหลวงพ่อปานทุกพิมพ์ขอบเรียบ) อาจมีรอยปาดเนื้อเกินออกไปได้บ้าง
ส่วนรูอุดผง จะปรากฏอยู่ที่สันขอบด้านบน เป็นรูกลมและลึก ไว้สำหรับบรรจุผงวิเศษที่เรียกกันว่า ผงยันต์เกราะเพชร ของหลวงพ่อปาน เป็นผงสีขาวนวลผสมกับปูนซีเมนต์และน้ำ เมื่อกรอกลงอุดในรูแล้วผงจะแห้ง มีสีขาวอมเทา
จากคำพูดที่ว่า นก-ทำนา , ไก่-หากิน , เม่น-เดินป่า , ปลา-ค้าขาย , ครุฑ-อำนาจ , หนุมาน-รับราชการ เป็นอานุภาพพุทธคุณพระพิมพ์หลวงพ่อปาน ประทับสัตว์พาหนะทั้ง 6 ชนิด ที่ร่ำลือกล่าวขานจนติดปากมักคุ้นในวงการพระเครื่อง เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยคุ้นหูกันมาบ้าง นั่นก็เพราะว่าไม่มีบันทึกใดเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระของหลวงพ่อปาน ระบุยืนยันถึงพุทธคุณอานุภาพ ที่แตกต่างกันออกไป
เพียงแต่นักสะสมพุ่งเป้าไปที่สัตว์ต่างๆจะเอื้ออำนวยในด้านใดเข้าล็อคเข้าประเด็นได้และเมื่อร่ำลืออกไปจึงกลายเป็นความนิยมที่ยึดติดสืบต่อกันมาจนบัดนี้ และนี้เองที่ทำให้พระบางพิมพ์ได้รับความนิยมสูง เริ่มกันตั้งแต่ พิมพ์ทรงไก่ ที่นิยมกันเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาก็ พิมพ์ทรงครุฑ และ พิมพ์ทรงหนุมาน
จากการบอกเล่าของชาวบ้านและผู้มีความรู้เกี่ยวกับหลวงพ่อปาน หลายๆคนบอกว่า หลวงพ่อปานเป็นคนแรกที่ทำได้และเป็นคนสุดท้ายไม่มีการสืบทอด การทำผงพระนี้ยากมากต้องมีสมาบัติ 8 รูป สัตว์ทั้ง 6 ชนิด คือ ไก่ ครุฑ หนุมาน ปลา เม่น และนก นั้น
หากจะทำชนิดใดก็ต้องล็อกคาถาของสัตว์ชนิดนั้นมาทำผง เช่นจะทำพระขี่นก จะเอาผ้าขาวมาเสกให้เป็นนกแล้วกางปีกออก จะมีพระคาถาอยู่ในปีกแล้วล็อกพระคาถามาทำผง เมื่อได้ผงมาก็ต้องนั่งปลุกเสกในโบสถ์ อดข้าว 7 วัน 7 คืน ออกไปไหนไม่ได้เลยต้องเข้าสมาบัติตลอดขณะที่ปลุกเสกพระอยู่ในโบสถ์
จะมีการตั้งบาตรน้ำมนต์ไว้สี่มุม เวลาบริกรรมคาถาบรรดาคุณไสยต่างๆ ที่มีผู้กระทำมาในอากาศก็จะกระทบกับพระเวทย์ของหลวงพ่อปาน แล้วร่วงหล่นสู่บาตน้ำมนต์ มีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา
ถือเป็นการตัดไม้ข่มนามพวกคุณไสย ผงวิเศษนี้จึงสามารถป้องกันคุณไสยได้
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-07-29 11:12:12
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว คลุกรัก เนื้อกะลา วัดเครือวัลย์ ชลบุรี (826)
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว คลุกรัก เนื้อกะลา วัดเครือวัลย์ ชลบุรี (826)
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่นิยมกันมากๆ ก็คือพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ซึ่งพิมพ์มาตรฐานก็มี พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กพิมพ์นี้ไม่ค่อยเห็น เข้าใจว่าคงมีไม่มากนัก พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักที่ด้านหลังจะมีทั้งหลังแบบและหลังเรียบ
สำหรับพระปิดตาหลวงพ่อแก้วองค์นี้มีความเก่ามาก ถ้าซูมไปใกล้ๆเราจะเห็นเนื้อขุยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ตามซอกต่างๆขององค์พระ แผ่นทองคำเปลวและรักก็ได้มีการหลุดลอกออกไปตามกาลเวลา ทำให้เราเห็นเนื้อด้านในขององค์พระและความเป็นธรรมชาติได้อย่างชัดเจนและแท้จริง
พระปิดตาหลวงพ่อแก้วมีพุทธคุณในด้านเมตตาค้าขายดี และก็ยังมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาอีกมามากมายที่มวลสารของพระปิดตาหลวงพ่อแก้วน้ำสามารถให้ผลทางด้านเสน่หารักใคร่กับหนุ่มสาวได้ดีอีกด้วย
ประวัติเกี่ยวกับหลวงพ่อแก้วนั้นไม่มีบันทึกที่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่จะเล่าบอกต่อๆกันมาว่าท่านเป็นพระธุดงค์มาเรื่อยๆผ่านมาหลายจังหวัดและมาหยุดปักกลดอยู่ที่จังหวัดชลบุรี (ซึ่งที่เป็นวัดเครือวัลย์ในปัจจุบัน) เมื่อมีพระธุดงค์มาปักกลดชาวบ้านต่างก็ศรัทธาและนำข้าวปลาอาหารต่างๆมาถวายท่านเป็นอย่างดี ต่อมาชาวบ้านก็นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นี่และสร้างวัดศาลาวัดเครือวัลย์ ซึ่งชาวบ้านเองก็ช่วยกันหาไม้และวัสดุต่างๆในการก่อสร้างมาสร้างวัดจนเสร็จสิ้น ซึ่งท่านเองก็ได้สร้างและปลุกเสกพระปิดตาคลุกรักแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเป็นการตอบแทน
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-07-06 18:10:46
เหรียญ กุมาร (ไอ้ไข่) เด็กวัดเจดีย์ ปี 2526 ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช (633)
เหรียญ กุมาร (ไอ้ไข่) เด็กวัดเจดีย์ ปี 2526 ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช (633) จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเหรียญของสายบูชากุมารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะกุมารไข่มักจะบรรดาลพรให้ผู้ที่บูชาขอสมความปรารถนานั่นเอง จึงทำให้เหรียญกุมารไข่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีว่า ไอ้ไข่ เด็กวัดเจย์ดี
ประวัติเรื่องราวของ ไอ้ไข่ เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่ตั้งวัดเจดีย์แห่งนี้เมื่อก่อนหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เมื่อครั้งเดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาแวะมาปักกลด เดินธุดงค์อยู่บริเวณนี้เพื่อพักแรม ส่วนไอ้ไข่อายุก็ราวๆ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่มาด้วย
ปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้พบว่ามีทรัพย์สมบัติมากอยู่ พร้อมกันนั้นศาสนสถานก็เป็นสถานที่ซึ่งสำคัญมากจึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและที่แห่งนี้เอาไว้
หลังปี 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักค้างอ้างแรมในวัดเจดีย์ ถ้าไม่เอ่ยชื่อไอ้ไข่ บอกกล่าว ขอขมาแล้วล่ะก็ มักจะนอนไม่ได้ เรียกว่าถูกกวนทั้งคืน เคลิ้มๆจะหลับก็จะรู้สึกเหมือนมีเด็กมาตีหัวบ้าง ดึงขา...ดึงแขนบ้าง จนชาวบ้านในระแวกเล่าลือและต่างพากันกลัวเป็นอย่างมาก
และด้วยการที่ชาวบ้านได้มาขอพรกับไอ้ไข่ มักได้ผลตอบรับตามคำขอบ่อยครั้งชาวบ้านจึงเกิดการศรัทธา ช่วงนั้นในราวๆปี 2526 พ่อท่านเทิ่ม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ยุคนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่รุ่นแรก พร้อมพัฒนาวัดเรื่อยมา จึงเป็นที่มาของเหรียญไอ้ไข่ รวมตั้งรูปปั้นกุมารไข่ที่เราพบเห็นกันอยู่ทั่วไป
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-05-22 12:30:27
พระหลวงปู่ศุข พิมพ์ประภามณฑล มีรัศมี เนื้อชินตะกั่ว มีรอยจารมือด้านหลัง (647)
พระหลวงปู่ศุข พิมพ์ประภามณฑล มีรัศมี เนื้อชินตะกั่ว มีรอยจารมือด้านหลัง มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ปรากฎเส้นประภามณฑลและเส้นรัศมี เป็นพิมพ์นิยมที่สุดในกลุ่มพระหล่อเนื้อโลหะของหลวงปู่ศุข พิมพ์ทรงมีเอกลักษณ์สวยงามอย่างยิ่งซึ่งแม่พิมพ์ได้รับแรงบันดาลใจจากพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง คือมีรูปองค์พระประทับบนฐานบัลลังก์ภายในซุ้มเรือนแก้ว แต่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นเส้นซุ้ม 2 ชั้น ฐานบัวบัลลังก์ 2 ชั้น เพิ่มเส้น ประภามณฑลรอบพระเศียรแบบพระซุ้มกอและเพิ่มเส้นรัศมีเป็นเส้นประกายสองข้างขององค์พระ
โดยมากแล้วพระพิมพ์ประภามณฑลมีเนื้อโลหะผสม ทองเหลืองและทองแดงเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัมฤทธิ์ , เนื้อทองเหลือง และเนื้อตะกั่วอย่างเช่นองค์นี้
รูปองค์ทรงพระแบบมีเส้นรัศมีส่วนใหญ่ปรากฎ หน้า จมูก ปาก ซึ่งเป็นแม่พิมพ์แรกๆที่ยังสมบูรณ์ ด้านหลังเรียบ มีรอยเจียร์แต่ง ซึ่งรอยจารด้านหลังมีเฉพาะบางองค์เท่านั้น
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-03-25 21:53:06
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (614)
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (614) พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และโชคลาภ ส่วนมวลสารของพระเครื่องซึ่งเป็นทองเหลืองนั้น ได้มีการผสมทองเหลืองเข้าไปหลายชนิด และไม่ทราบสัดส่วนที่ชัดเจน แถมวิธีในการหล่อก็ใช้วิธีแบบโบราณชนิดที่เรียกว่าบ้านๆเลย คือใช้ไฟสุม จึงทำให้เนื้อโลหะไม่สามารถที่จะผสานกันสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อกาลเวลาเนิ่นนานผ่านไปจึงปรากฏเป็นรอยด่างของสนิมที่ไม่สม่ำเสมอกันทั่วทั้งองค์ของพระเครื่อง บางจุดก็เป็นสีเหลืองสดใส บางจุดก็เป็นสีน้ำตาล และบางจุดก็เกิดเป็นสนิมตีนกาสีดำ
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-03-25 21:52:45
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (613)
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (613)
พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และโชคลาภ ในวงการพระเครื่องจะรู้ว่าถ้าสภาพสวย ไม่ว่าพิมพ์ไหน ก็จะได้รับความนิยมมากจากผู้ที่มีความศรัทธาและต้องการบูชา จัดได้ว่าเป็นพระเครื่องที่เป็นที่รู้จักดีและมีชื่อเสียงมากของเมืองไทย
การสร้างพระเครื่องหลวงพ่อเงิน จะใช้วิธีหล่อที่เรียกกันว่า หล่อโบราณ คือ การหล่อหุ่นเทียนจากแม่พิมพ์ แล้วใช้ดินขี้วัวพอกหุ่นเทียน เมื่อดินแห้งสนิท ก็นำหุ่นเทียนนั้นไปเผาไล่เทียนออกจากแม่พิมพ์ หลังจากนั้นจึงเททองเหลืองที่หลอมแล้วลงในเบ้า พอองค์พระเย็นก็แกะเบ้าดินขี้วัวออก ดังนั้นขนาด ของพระเครื่องทุกองค์จึงใกล้เคียงกัน และในขณะที่ถูกความร้อน คราบดินขี้วัวก็ได้ฝังตัวแน่นอยู่ตามซอกแขน และเนื้อของพระเครื่อง ดูกลมกลืนกันจนแทบจะแยกไม่ออก จึงกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญ ที่ยากจะเลียนแบบ
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน องค์นี้มีความเก่า ตามซอกก็จะพบคราบต่างๆติดอยู่ตามสภาพความเก่าของวันเวลาที่ผ่านมายาวนาน ที่ด้านล่างก้นขององค์พระมีการตัดช่อชนวนและได้มีการแต่งด้วยตะไบ ซึ่งปรากฎรอยตะไบเป็นเส้นๆชัดเจน นอกจากนี้แล้วยังปรากฎสนิมทองเหลืองบริเวณรอบตะไบอีกด้วย
ดูรายละเอียดทั้งหมด ->
เมื่อวันที่ : 2019-03-25 21:52:11
|
|
|
Line QR
|
|
|
หมวดหมู่
|
|
ว่านดอกทอง
สบู่เลือด
หลวงปู่ทาบ
พระปิดตา
เหรียญ
ว่านไพรดำ
น้ำปูนกินหมาก
เทียนชัย
ล็อคเก็ต
ตะกรุดมหาปราบ
สาริกา
พระกริ่ง
หลังฝัง
กระยาสารท
พลอย
เครื่องราง
เถาวัลย์หลง
ประสบการณ์
คาถา
+ สถิติเว็บไซต์
เมื่อวาน : 3311 ครั้ง
วันนี้: 275 ครั้ง
บทความแนะนำ
คลิกเพื่อดูทั้งหมด ->
|
